เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำก็ไม่มีอะไรมาก ขอแค่สละเวลาว่างสักนิด วันละประมาณ 30 นาทีหลังเลิกงาน หรือในวันหยุด มาทำความสะอาดบ้านบ้าง โดยเน้นในส่วนพื้นหน่อย ถึงจะเหนื่อยหรือน่าเบื่อแต่ก็อย่าขี้เกียจ เพราะบอกเลยว่าไม่คุ้มแน่นอนที่จะเอาสุขอนามัยเข้าแลก
วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับพิเศษมาให้คุณ เป็นเคล็ดลับการทำความสะอาดพื้น 10 แบบ เพราะวัสดุที่ใช้ทำพื้นนั้นมีมากมาย และแต่ละประเภทก็มีพื้นผิวที่แตกต่างกัน วิธีการทำความสะอาดจึงต่างกัน
ลองไปดูกันเลยว่ามีอะไร และต้องทำยังไงบ้าง ดูแล้วอย่าลืมเอาไปปฏิบัติใช้ด้วย…
หลายๆบ้านนิยมใช้ปูนเป็นวัสดุในการปูพื้นหน้าบ้าน ตัวอย่างเช่นรูปผลงานของสถานิก Laurence Associates ซึ่งข้อดีของมันอาจจะอยู่ในแง่ความทนทาน แต่ข้อควรระวังคือการทำความสะอาด เนื่องจากปูนจะมีผิวที่ขรุขระ หยาบเหมือนกระดาษทราย มีร่องเล็กร่องน้อยเต็มไปหมด ดังนั้นเวลาทำความสะอาดจึงควรเตรียมทั้งแปรงขัดพื้น และแปรงสีฟันมาด้วย โดยวิธีคือใช้แปรงขัดพื้นขัดให้ทั่ว ส่วนแปรงสีฟันใช้ทำความสะอาดตามร่องเพื่อเอาขี้ฝุ่นขี้โคลนออก
อีกหนึ่งวัสดุปูพื้นยอดนิยมที่สามารถใช้แทนไม้ธรรมดาได้ เพราะมันเป็นแผ่นสังเคราะห์ ทำมาจากทั้งเรซิ่น และสารเคลือบเคมีอีกหลายชนิด ประกอบกันเป็นชั้นๆ ทำเป็นลายไม้สวยงามเหมือนของจริงมากจนแทบแยกไม่ออก และที่สำคัญคือมีความทนทานต่อการถูกกระแทกหรือขีดข่วนมากกว่าพื้นไม้ธรรมดา
วิธีการทำความสะอาดพื้นแบบนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากมาก แค่ใช้ผ้าหรือไม้ถูพื้นหมาดๆมาเช็ด อย่าให้น้ำเปียกโชก เพราะน้ำจะซึมลงพื้นและอาจเกิดการชำรุดได้
ตามตัวอย่างห้องน้ำในรูปนี้ จะเห็นได้ว่าตรงฝักบัวด้านในถูกปูด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กๆหลากสี ซึ่งข้อดีของมันคืออาจจะช่วยเพิ่มลวดลายให้กับห้อง ดูมีสีสันกับลูกเล่นมากขึ้น แต่ข้อเสียคือจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและคราบสกปรกได้ง่าย เพราะมีร่องยาปูนเยอะมาก เพราะฉะนั้น หนทางที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดคือ ให้เอาผงซักฟอกกับผงฟูมาผสมกัน หรือจะเพิ่มน้ำส้มสายชูเข้าไปด้วยก็ได้ ผลลัพธ์ที่จะได้คือของเหลวที่มีสภาพเป็นกรดสูง ซึ่งสามารถสลายคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามซอกกระเบื้องได้ แต่ถ้ากระเบื้องของคุณเก่ามากแล้ว คุณต้องระวังเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งที่มีสภาพเป็นกรด รวมทั้งลูกมะนาวด้วย เช่นเดียวกับอุปกรณ์ใดๆที่จะสามารถใช้ขูดร่องยาปูนได้ เพราะจะทำให้ตัววัสดุยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว
แน่นอนว่าจุดอ่อนของพื้นแบบนี้คือเป็นแหล่งสะสมคราบสกปรกชั้นเลิศ โดยเฉพาะตามร่องยาปูน จะเห็นได้ชัดมากเนื่องจากสีพื้นเป็นสีโทนอ่อน แนะนำให้ผสมผงซักฟอกกับน้ำอุ่นจนเจือจาง จากนั้นเทลงไปบนพื้นโดยไม่ต้องเอาน้ำราดก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้ากระเบื้องของคุณมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน แนะนำว่าให้ปรึกษาทางบริษัทผู้ผลิตจะดีที่สุด ว่าควรมีการดูแลรักษาอย่างไรถึงจะไม่ทำให้ตัววัสดุสึกหรอง่าย
เป็นอีกวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็ทำความสะอาดยากที่สุดเหมือนกัน เพราะถ้าไม่รู้หรือไม่ระวังแล้ว ตัวไม้จะสึก จะเป็นรอย กร่อนไปหมด สีซีดด่าง และไม่สวยเลย
เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือการใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดกำจัดเอาเศษผงออกไปรอบนึงก่อน จากนั้นใช้ผ้าหมาดๆเช็ดซ้ำอีกที แต่อย่าลืมระวังห้ามใช้ของที่มีฤทธิ์เป็นกรดเด็ดขาด เพราะจะกัดเนื้อไม้จนเสียได้
ดูแลรักษายากไม่เบาเหมือนกัน สำหรับบ้านที่ปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็ง ถ้าทำไม่เป็นแล้วรับรองว่าพื้นสึกเร็วแน่นอน แต่ก็ยังมีวิธีอยู่คือให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดกำจัดฝุ่นออกไป หลังจากนั้นถ้ามีขี้ผึ้งขัดพื้นด้วยจะดีมาก เพราะจะช่วยรักษาความเงางามให้กับเนื้อไม้ และหลังจากนั้นให้ใช้ผ้าหมาดๆเช็ดตามปกติ โดยควรหลีกเลี่ยงการใช้ของที่มีสภาพเป็นกรด ถ้าไม่อยากให้ไม้ชำรุดหรือสึกกร่อน
วิธีทำความสะอาดแบบเบสิคที่สุดคือ ให้ไปซื้อน้ำยาสำหรับทำความสะอาดพื้นผิวจำพวกหิน หินห่อน หรือหินปูนโดยเฉพาะ นำมาละลายกับน้ำให้เจือจาง จากนั้นใช้ไม้ถูพื้นมาดูตามปรกติ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเป็นอันขาดว่าไม่ควรใช้ของเหลวจำพวกกรด เพราะจะทำลายเนื้อหิน